วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เรื่องราวไร้สาระ เรื่องสั้นๆ ในวันป่วยแปลก





เส้นทางสายเปลี่ยว ค่ำคืนว่างเปล่า มีเงาเหงาเดินย้อนแสงไฟเหลืองนวลผ่านพ้นบานประตูสีแดงส้ม จากตีสอง สาม สี่ และตีห้า มีคนเข้ามามิขาดสาย

ในนั้นมืดกว่าภายนอก สว่างกว่าภายใน (ใจ) ทุกคนล้วนมาจากแหล่งมืดดำเท่าๆ กัน มาจากตีนสวรรค์อันเท่าเทียม

ที่นี่มีจุดประสงค์เพื่อเป็นบ้านพักใจ เป็นบ้านพักใจของใครทุกคน โดยเฉพาะคนที่มาจากเด็กเสิร์พ สาวกร้านจากราวเหล็กอะโกโก้ เกย์เฒ่า หมูเหล่าทวยกะเทย หรือเลยไปถึงกระหรี่จากซ่องหรูรัชดา ยกเว้นโจรจี้ปล้นกับคนเลวที่ชอบเอาเปรียบเหยียบย่ำหัวใจคนอื่น

พวกเขาเซมาจากร้าน กร้านมาจากแหล่งโลกีย์ ในหลายชั่วโมงที่ยืนหยัดอยู่บนเส้นทางโสมมพวกเขาถูกกดขี่ข่มขืนใจ ต้องทำอะไรๆ ที่ฝืนความเป็นคน ต้องทนต่อสภาพบีบคั้นหัวใจตัวเอง

พวกเขามาจากหลายที่ มีชีวิตเติบโตมาหลายจากถิ่น กัดถีบเพื่อหากิน  ช่วงทำงานต้องตวัดลิ้นเพื่อเอาตัวรอด

เขามาที่นี่เพราะมันคือบ้าน บ้านที่มีแต่พี่น้อง มีทั้งเสียงร้องไห้ มีทั้งเสียงหัวเราะ แต่ไร้เสียงเหยียดเยาะเย้ยหยัน ต่างคนต่างให้กำลังใจกันและกัน ต่างมอบพลังปลุกปลอบรอบให้ขวัญเพื่อให้เพื่อนต่อสู้ในวันพรุ่ง วันรุ่งที่พวกเขาไม่อยากให้มาถึง

บ้านหลังนี้เป็นที่สลายทุกข์ ปลุกปั้นความสุขด้วยการดูแลกันและกัน หลายคนพบรัก หลายคนปักใจหอบหิ้วไปมีลูกปลูกหลาน หลายคนรักที่จะมีเพื่อน บางคู่กลายเป็นพี่น้องดูแลกันยามเจ็บจนปนไข้ ใครตกงานช่วยฝากงาน ใครไร้บ้านช่วยกันหาที่ให้อยู่ ดูแลเท่าที่ทำได้ อดมื้อกินมื้อจะเป็นอะไรไป ในเมื่ออยู่ในวิถีเดียวกัน

จากตีสองถึงฟ้าวันใหม่ไม่มีใครไม่สุข แม้ไม่หมดทุกข์ก็ผ่อนร้าวบรรเทา พอถึงเช้าพวกเขาแยกย้ายไปตามบาทวิถี แบกเป้ความหวังดีของผองเพื่อนไปกับหัวใจเปลี่ยวเหงา เขาต้องรีบนอน ต้องพักผ่อนเพื่อขายแรงงานในเย็นย่ำค่ำวันใหม่ ชีวิตในเมืองฟ้าไม่มีอะไรมากไปกว่านี้  

วันหนึ่งเกิดเหตุและจบเหตุ เจ้าหน้าที่บุกเข้ามาจับ แจ้งว่าผับเปิดเกินเวลา พวกเขาช่วยกันอธิบายว่าที่นี่เป็นบ้าน เป็นสถานที่พบปะ ไม่ใช่ผับขยะตามที่เข้าใจ

ตำรวจหัวเราะ เยาะเย้ยเริงร่า อ้างว่าผิดกฎหมาย ผิดกฎหมาย และผิดกฎหมาย   พวกเขาถูกจับ ปรับเป็นเงินมากมาย ไม่มีใครเข้าใจ ไม่มีใครเหลียวแล

นักข่าวหัวเห็ดเด็ดดอกเป็นข่าวใหญ่โต แอบไปเม้าท์โม้ว่าทลายแหล่งซ่องสุมกลุ่มวัยรุ่น ถุย ถุย นักข่าว

ตำรวจแถลงข่าว เอายาไอซ์มาโชว์ โถๆ ท่าน พวกฉันจะเอาเงินมาจากไหนซื้ออีไอซ์ แค่ยาแก้ไอในวันป่วยไข้มีได้ก็บุญแล้ว ถุย ถุย

คนอย่างพวกเขาจะทำอะไรได้ จำต้องแยกย้ายกันไป หวังว่าวันใหม่จะมีบ้านให้พักมีรักให้กอดเหมือนวันเก่าๆ หวังให้มีที่ๆ เราได้ปรับทุกข์ก่อสุข หวังให้มีที่ๆ เป็นของเรา หวังว่าเงาความสุขจะกลับมาเยือน...เลือนก่อนนะคอนคนบาป


วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2558

แม่แจ่ม วัดวาอาราม (25 เฟรม)


งานแกะสลักหน้าบันวัดยางหลวง งดงามวิจิตรบรรจง

การไปเยือนแม่แจ่มหลายครั้งในรอบหลายเดือนที่ผ่านมาทำให้มีโอกาสกราบไหว้บูชาองค์พระพุทธปฏิมาตามวัดต่างๆ ในตัวเมืองแม่แจ่ม ครั้งหลังสุดเพิ่งไปสัมผัสประเพณีจุลกฐินจึงได้พบม่านประเพณีที่งดงามตามวัฒนธรรมที่สืบมาแต่หนหลัง


องค์เจดีย์กับอุโบสถวัดทัพ

ลองไปดูกันว่าวัดทัพ วัดยางหลวง วัดป่าแดดและวัดพระพุทธเอ้น มีประวัติความเป็นมาน่าสนใจอย่างไร พุทธศิลป์ในหลายแขนงไม่ว่าจะเป็นงานปั้น แกะสลัก จิตรกรรม สถาปัตยกรรมและปฏิมากรรมนั้นมีความวิไลในฝีมือเชิงช่างมากน้อยขนาดไหน


ชาวบ้านช่วยกันทอผ้าจุลกฐิน วัดทัพ



เทศนาในอุโบสถวัดทัพ (คืนก่อนงานจุลกฐิน)



ผ้ากฐินที่ชาวบ้านช่วยกันทอ+เย็บ+ย้อม เสร็จในคืนเดียว



ขบวนแห่จุลกฐินวัดทัพ

วัดทัพ ก่อนงานแห่กฐินหนึ่งวัน ชาวบ้านมารวมตัวกันที่วัด ผู้หญิงมาปั่นฝ้าย ทอผ้า ย้อมผ้าให้เสร็จในคืนเดียว พอรุ่งเช้าทำการแห่แหน เป็นพิธีกรรมทางศาสนา ผู้เฒ่าผู้แก่ แม่บ้านพ่อบ้าน ลูกเด็กเล็กแดง แสดงความศรัทธาด้วยการมาร่วมงานบุญ (หมู่บ้านใกล้เคียงมาร่วมด้วย) สิ่งที่แอบปลื้มใจคือผู้หญิงทุกคนไม่ว่าสาวหรือแก่ แม่หรือลูก ล้วนใส่ผ้าซิ่นมาร่วมงาน แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมอันเป็นที่เคารพซึ่งยึดโยงมาถึงปัจจุบัน ที่สำคัญผ้าซิ่นแม่แจ่มนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องฝ้ายตีนจก คนที่มาร่วมงานนอกจากได้ร่วมบุญร่วมกุศลยังมีโอกาสได้ชมผ้างามนามซิ่นตีนจกแม่แจ่มด้วย


ซิ่นตีนจก สุดยอดหัตถกรรมงานฝีมือของคนแม่แจ่ม



หอไตรและอุโบสถวัดป่าแดด


วัดป่าแดดเป็นวัดขนาดเล็กโอบล้อมด้วยนาข้าวเขียวขจี สิ่งที่น่าสนใจคือหอไตรโบราณ องค์ประประธานในโบสถ์และจิตกรรมฝาผนัง


พระประธานในอุโบสถวัดป่าแดด


โดยปกติหอไตรในวัดเก่าจะเป็นไม้ทรงสูงทว่าหอไตรของวัดป่าแดดกลับเป็นปูนกว้างแต่ไม่สูง ด้านหน้ามีรูปปั้นรูปเทวดาแทนที่จะเป็นสิงห์หรือพญานาค


หอไตรวัดป่าแดด



ปูนปั้นรูปเทวดากับงานเขียนสีบริเวณประตูหอไตร วัดป่าแดด


อุโบสถมีสิ่งที่น่าสนใจประกอบกันหลายส่วน จากจุดแรกคือบานหน้าต่างอุโบสถเป็นบานหน้าต่างเรียบๆ ไม่เหมือนวัดล้านนาแต่คล้ายคลึงวัดเก่าในแดนดินถิ่นอีสานมากกว่า ส่วนการใช้สีเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังก็เป็นไปในทำนองเดียวกัน คือปรากฏว่าโทนสีที่ใช้เป็นโทนฟ้า-น้ำเงินที่อีสานนิยมใช้ ผมชอบวัดนี้ตรงที่มีความแปลกที่แตกต่างและคงต้องค้นหารายละเอียดต่อไป


จิตรกรรมฝาผนังวัดป่าแดด



เจดีย์องค์ใหม่ วัดป่าแดด



ทัศนียภาพบันไดทางเดินขึ้นไปสู่ลานอุโบสถวัดพุทธเอ้น

วัดพุทธเอ้นเป็นวัดเก่าแก่ที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ อุดมในที่นี้หมายถึงมีบ่อน้ำผุดขึ้นมาจากใต้ดินให้คนได้ดื่มกินมาแต่โบราณกาล ปัจจุบันชาวบ้านในเมืองแม่แจ่มอาศัยดื่มน้ำจากวัดนี้ คือชาวบ้านจะนำภาชนะมากรอกน้ำเอาไปไว้ใช้ดื่มที่บ้าน บางคนขนขวดหรือภาชนะมาเต็มคันรถเรียกว่ามาทีเดียวเอากันให้คุ้มจะได้ไม่ต้องมากรอกกันบ่อยๆ น้ำนี้ถูกพิสูจน์ทราบจากนักธรณีแล้วว่าเป็นน้ำสะอาดบริสุทธิ์ สามารถนำไปดื่มได้เพราะผ่านการกรองจากชั้นดินชั้นหินมาเป็นอย่างดี ที่สำคัญน้ำบ่อนี้ไหลตลาดปีไม่เคยเหือดหาย ไม่น่าแปลกใจครับหากน้ำดื่มในร้านสะดวกซื้อมียอดขายไม่ดีเท่าที่ควร 


โบสถ์กลางน้ำวัดพุทธเอ้น


นอกจากเรื่องน้ำและพระพุทธประวัติสิ่งที่น่าสนใจคือปฏิมากรรมทางศาสนา เช่นโบสถ์กลางน้ำเป็นโบสถ์เก่ามีขนาดเล็กรวมถึงเจดีย์กับหอไตรก็งดงามเช่นกัน


ศาลาน้ำผุดวัดพุทธเอ้น มีชาวบ้านมากรอกน้ำกันทั้งวัน



องค์เจดีย์กับอุโบสถวัดพุทธเอ้น



หอไตรวัดพุทธเอ้น



อุโบสถวัดยางหลวง


วัดยางหลวงวัดนี้เป็นวัดที่มีขนาดเล็ก (กว่าทุกวัดที่กล่าวถึง) แต่วัดเล็กแห่งนี้กลับมีพุทธศิลป์ค่อนข้างสมบูรณ์ลงตัว เริ่มตั้งแต่อุโบสถเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนกึ่งตึกกึ่งไม้ ด้านหน้า (จั่ว) แกะสลักได้วิจิตรบรรจง ส่วนด้านในมีพระประธานอันงดงามด้วยพุทธศิลป์ มีประตูวัดเก่าซึ่งหมายความว่าโบสถ์แห่งนี้สร้างครอบทับประตูโบราณอีกทีหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีภาพวิหารจากด้านนอก (ผ่านรูหน้าต่าง) ทอดทาบลงบนพื้นโบสถ์เป็นที่น่าอัศจรรย์ของชาวบ้าน (เหมือนภาพพระธาตุลำปางหลวง) ซึ่งความจริงเป็นปรากฏการณ์ปกติเกิดจากการสะท้อนและหักเหของแสงครับ


พระประทานภายในอุโบสถวัดยางหลวง



ด้านหลังคือพระพุทธรูปกับประตูวัดโบราณ ภายในอุโบสถที่สร้างครอบไว้



วิหารวัดยางหลวง



พญานาคหน้าวิหารวัดยางหลวง


ที่กล่าวมาทั้งหมดคือสี่วัดที่ได้ไปสัมผัส ได้เรียนรู้ และได้ร่วมบุญ ซึ่งความจริงแม่แจ่มยังมีวัดอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกหลายสิบวัด ยังมีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ให้ชื่นชม บอกตัวเองว่าคงต้องหาโอกาสกลับมาเยือนและศึกษาสิ่งที่ดีงามในเมืองแม่แจ่มอีกครั้งหนึ่ง


ชาวบ้านเดินตัดคันนาไปร่วมงานบุญ


หมายเหตุ
งานจุลกฐินปีนี้ (2558) อำเภอแม่แจ่มจัดขึ้น 2 วัด คือวัดยางหลวงกับวัดทัพ
งานจุลกฐินวัดทัพเคยจัดแต่มีช่วงเว้นวรรค ล่าสุดเพิ่งกลับมาจัดได้ 5 ปี