วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เขาใหญ่ เที่ยวป่าหน้าฝน

สายฝนโปรยปราย หัวใจออกเดินทาง 

                                       
                                                        ทัศนียภาพม่านฝนบนขุนเขา 

การเดินทางเที่ยวป่าหน้าฝนมีเหตุสนับสนุนที่ต้องไปคือป่ามีความเขียวบนความฉ่ำชื้น สายน้ำอุดมสมบูรณ์ ป่าทุกผืนเริงรื่นถึงขีดสุด



แสงสุดท้ายปลายฟ้าเขาใหญ่

ปลายอาทิตย์แสนสั้น การเดินทางไปสัมผัสป่าต้องบริหารเวลา ผมอยากใช้เวลาในป่ามากกว่าบนท้องถนน หากเอากรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งมีป่าที่อยู่ในรัศมีการเดินทางไม่เกิน 3 ชั่วโมงอยู่รอบด้าน อาทิ เขาใหญ่ แก่งกระจาน อ่างฤาไน เขาชะเมา ไทรโยค เอราวัณ สุดท้ายเลือกไปอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยตัดสินใจไปเดินป่าระยะสั้นจากบริเวณลานกางเต็นท์ผากล้วยไม้ เดินเรียบลำตะคองไปน้ำตกผากล้วยไม้ เลยเรื่อยไปถึงน้ำตกเหวสุวัต กับระยะทาง 3 กิโล้มตร



หนองผักชี แหล่งดูสัตว์ที่สำคัญของเขาใหญ่

บนถนนธนะรัตช์ เมฆหนาก้อนใหญ่ไล่หลังเรามาติดๆ อีกไม่ช้าคงชิดเข้ามาใกล้และทำให้เราเดินทางลำบากขึ้น แต่ไม่เป็นไรเที่ยวหน้าฝนก็ต้องเจอฝน  ปลอบใจตัวเองขณะรถแล่นผ่านศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ผ่านจุดชมวิว กระทั่งมาถึงอาคารที่ทำการอุทยานฯ ถึงตอนนี้หนีไม่พ้น ม่านฝนโปรยปรายลงมาบางๆ  ป่าใหญ่ตกอยู่ในความเงียบ ปล่อยให้สายฝนส่งเสียง ปล่อยให้ป่ารับน้ำที่ล่วงลงมาจากสรวงสวรรค์

สะพานข้ามธารน้ำลำตะคอง กองแก้ว

ไม่นานนัก เม็ดฝนแห่งความรักหยุดริน ผู้ถวิลหาการเดินป่าเตรียมตัวสวมถุงกันทาก ขยับแจ๊กเก็ตให้เข้าที่ ก้าวเท้าข้ามสะพานแขวน ลัดเลาะเข้าไปตามทางเดินแคบเล็กเพื่อมุ่งสู่น้ำตกกองแก้วซึ่งซ่อนตัวอยู่ด้านหลังอาคารที่ทำการอุทยานฯ



ธารน้ำตกกองแก้ว

ระยะทางเดินสั้นๆ ไม่น่าเกิน 500  เมตรพาเราไปพบพันธุ์ไม้มากมาย ได้พบป่าพรุ ได้พบป่าดิบแล้ง และพบไม้นานาพันธุ์สุดท้ายพบสายน้ำขนาดเล็กรินไหลอยู่บนหินสีดำขลับ นักธรณีวิทยาสันนิษฐานว่าเป็นหินปล่องภูเขาไฟเมื่อหลายล้านปีก่อน


ผืนป่าริมอ่างเก็บน้ำ ฝั่งตรงข้ามมอสิงโต 

จากกองแก้วยานพาหนะขับเคลื่อนผ่านทุ่งมอสิงโต บริเวณนี้พบเก้งกวางเล็มหญ้าระบัดใบบนทุ่งโล่ง งดงามราวภาพวาดมากกว่าภาพจริง ดูเหมือนกวางไม่ตื่นกลัว แต่เจ้าเก้งหม้อขนาดเล็กระแวงภัย กินไปเหลียวมองไป ไม่ไว้ใจคนแปลกหน้า ถึงที่สุดมันกระโดดหายไปในไพรพง


                                                               ฝูงกวางกินหญ้าที่มอสิงโต

เวลาล่วงเลยไปถึงช่วงเย็น หลังกางเต็นท์และทำอาหารเล็กๆ น้อยๆ ที่ผากล้วยไม้ สายฝนโปรยปรายลงมาอีก คราวนี้ไม่มีทีท่าจะซาสร่าง การตั้งหวังถ่ายภาพหมู่ดาวในคืนเดือนแรมต้องเลิกล้ม ไม่มีอะไรดีไปกว่าเปิดไฟดวงเล็ก เขียนบันทึกภายใต้แสงตะเกียงดวงเล็กแล้วหลับใหลไปกับไอเย็นจวบจนรุ่งสาง


ทะโมนน้อยกับแม่

หลังอาหารเช้า ก้าวเท้าเดินไปบนทางดินแคบเล็ก เดินขนานไปกับสายน้ำลำตะคอง ระหว่างทางได้พบพันธุ์ไม้มากมาย เช่น ดอกข่าลิง เฟิร์นหลากชนิด  เห็ดอีกหลายสายพันธุ์ รวมถึงเห็ดถ้วยแชมเปญสีส้มสดงดงามมาก


เห็ดถ้วย


มอสตะไคร่บนขอนไม้ พบง่ายๆ ในป่าเขาใหญ่

เดินผ่านระยะทางมาได้ 900 เมตร ได้พบน้ำตกขนาดกลางลดหลั่นลงมาจากผาสูง แต่มองไม่ถนัดชัดตาเพราะป่าหนาบดบังทัศนียภาพสายน้ำจนหมดสิ้น

เส้นทางที่เหลืออีก 2.1 กิโลเมตรเดินผ่านความรกชัฏ แฉะชื้น และสูงชันเป็นบางช่วง เดินยากขึ้นมาอีกนิดหน่อยแต่ไม่มากหากเดินไปชมไป ถ่ายภาพไปจะเกิดความเพลิดเพลินมากกว่าเหนื่อยล้า



 น้ำตกผากล้วยไม้


ตะกวดรุ่นเยาว์ริมธารน้ำผากล้วยไม้

สุดท้ายปลายทาง เดินออกมาเจอป่าเจอความโล่งกว้างกับหุบเหว ที่นี่คือน้ำตกเหวสุวัต น้ำตกสวยคลาสสิคที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย  งามอย่างไรก็อย่างนั้น  สายน้ำกระโจนจากเหลี่ยมผาลงไปสู่แอ่งเบื้องล่าง ส่งไอละอองลอยฟุ้งไปทั่วบริเวณ จากนั้นจึงรินไหลไปตามธารโตรก ก่อนกลายเป็นน้ำในเขื่อนลำตะคองเพื่อเก็บกักไว้หล่อเลี้ยงชุมชนคนอีสานต่อไป


                                                                          น้ำตกเหวสุวัต

ทั้งหมดนี้คือการเดินทางท่องเที่ยวป่าหน้าฝนระยะสั้น ที่ใครๆ ก็ไปได้หากสนใจความเป็นป่า และสนใจธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์สูงสุดในฤดูกาลนี้



ผีเสื้อวงศ์หางติ่งพบริมธารน้ำเหวสุวัต

หมายเหตุ
-          อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัดคือ 1.นครราชสีมา 2.สระบุรี 3.ปราจีนบุรี 4.นครนายก
-          การเดินไปได้สองทาง คือทางอ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี

ขอบคุณเพื่อนร่วมทาง
- Fotodiary Team






    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น