ทัศนียภาพม่านฝนบนขุนเขา
การเดินทางเที่ยวป่าหน้าฝนมีเหตุสนับสนุนที่ต้องไปคือป่ามีความเขียวบนความฉ่ำชื้น สายน้ำอุดมสมบูรณ์ ป่าทุกผืนเริงรื่นถึงขีดสุด
แสงสุดท้ายปลายฟ้าเขาใหญ่
ปลายอาทิตย์แสนสั้น การเดินทางไปสัมผัสป่าต้องบริหารเวลา ผมอยากใช้เวลาในป่ามากกว่าบนท้องถนน หากเอากรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งมีป่าที่อยู่ในรัศมีการเดินทางไม่เกิน 3 ชั่วโมงอยู่รอบด้าน อาทิ เขาใหญ่ แก่งกระจาน อ่างฤาไน เขาชะเมา ไทรโยค เอราวัณ สุดท้ายเลือกไปอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยตัดสินใจไปเดินป่าระยะสั้นจากบริเวณลานกางเต็นท์ผากล้วยไม้ เดินเรียบลำตะคองไปน้ำตกผากล้วยไม้ เลยเรื่อยไปถึงน้ำตกเหวสุวัต กับระยะทาง 3 กิโล้มตร
หนองผักชี แหล่งดูสัตว์ที่สำคัญของเขาใหญ่
บนถนนธนะรัตช์ เมฆหนาก้อนใหญ่ไล่หลังเรามาติดๆ อีกไม่ช้าคงชิดเข้ามาใกล้และทำให้เราเดินทางลำบากขึ้น แต่ไม่เป็นไรเที่ยวหน้าฝนก็ต้องเจอฝน ปลอบใจตัวเองขณะรถแล่นผ่านศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ผ่านจุดชมวิว กระทั่งมาถึงอาคารที่ทำการอุทยานฯ ถึงตอนนี้หนีไม่พ้น ม่านฝนโปรยปรายลงมาบางๆ ป่าใหญ่ตกอยู่ในความเงียบ ปล่อยให้สายฝนส่งเสียง ปล่อยให้ป่ารับน้ำที่ล่วงลงมาจากสรวงสวรรค์
สะพานข้ามธารน้ำลำตะคอง กองแก้ว
ไม่นานนัก เม็ดฝนแห่งความรักหยุดริน
ผู้ถวิลหาการเดินป่าเตรียมตัวสวมถุงกันทาก ขยับแจ๊กเก็ตให้เข้าที่
ก้าวเท้าข้ามสะพานแขวน ลัดเลาะเข้าไปตามทางเดินแคบเล็กเพื่อมุ่งสู่น้ำตกกองแก้วซึ่งซ่อนตัวอยู่ด้านหลังอาคารที่ทำการอุทยานฯ
ธารน้ำตกกองแก้ว
ระยะทางเดินสั้นๆ ไม่น่าเกิน 500 เมตรพาเราไปพบพันธุ์ไม้มากมาย ได้พบป่าพรุ
ได้พบป่าดิบแล้ง และพบไม้นานาพันธุ์สุดท้ายพบสายน้ำขนาดเล็กรินไหลอยู่บนหินสีดำขลับ
นักธรณีวิทยาสันนิษฐานว่าเป็นหินปล่องภูเขาไฟเมื่อหลายล้านปีก่อน
ผืนป่าริมอ่างเก็บน้ำ ฝั่งตรงข้ามมอสิงโต
ฝูงกวางกินหญ้าที่มอสิงโต
เวลาล่วงเลยไปถึงช่วงเย็น หลังกางเต็นท์และทำอาหารเล็กๆ น้อยๆ ที่ผากล้วยไม้
สายฝนโปรยปรายลงมาอีก คราวนี้ไม่มีทีท่าจะซาสร่าง
การตั้งหวังถ่ายภาพหมู่ดาวในคืนเดือนแรมต้องเลิกล้ม ไม่มีอะไรดีไปกว่าเปิดไฟดวงเล็ก
เขียนบันทึกภายใต้แสงตะเกียงดวงเล็กแล้วหลับใหลไปกับไอเย็นจวบจนรุ่งสาง
ทะโมนน้อยกับแม่
หลังอาหารเช้า ก้าวเท้าเดินไปบนทางดินแคบเล็ก
เดินขนานไปกับสายน้ำลำตะคอง ระหว่างทางได้พบพันธุ์ไม้มากมาย เช่น ดอกข่าลิง
เฟิร์นหลากชนิด เห็ดอีกหลายสายพันธุ์
รวมถึงเห็ดถ้วยแชมเปญสีส้มสดงดงามมาก
เห็ดถ้วย
มอสตะไคร่บนขอนไม้ พบง่ายๆ ในป่าเขาใหญ่
เดินผ่านระยะทางมาได้ 900 เมตร ได้พบน้ำตกขนาดกลางลดหลั่นลงมาจากผาสูง
แต่มองไม่ถนัดชัดตาเพราะป่าหนาบดบังทัศนียภาพสายน้ำจนหมดสิ้น
เส้นทางที่เหลืออีก 2.1 กิโลเมตรเดินผ่านความรกชัฏ แฉะชื้น
และสูงชันเป็นบางช่วง เดินยากขึ้นมาอีกนิดหน่อยแต่ไม่มากหากเดินไปชมไป
ถ่ายภาพไปจะเกิดความเพลิดเพลินมากกว่าเหนื่อยล้า
น้ำตกผากล้วยไม้
ตะกวดรุ่นเยาว์ริมธารน้ำผากล้วยไม้
สุดท้ายปลายทาง เดินออกมาเจอป่าเจอความโล่งกว้างกับหุบเหว
ที่นี่คือน้ำตกเหวสุวัต น้ำตกสวยคลาสสิคที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย งามอย่างไรก็อย่างนั้น สายน้ำกระโจนจากเหลี่ยมผาลงไปสู่แอ่งเบื้องล่าง
ส่งไอละอองลอยฟุ้งไปทั่วบริเวณ จากนั้นจึงรินไหลไปตามธารโตรก ก่อนกลายเป็นน้ำในเขื่อนลำตะคองเพื่อเก็บกักไว้หล่อเลี้ยงชุมชนคนอีสานต่อไป
น้ำตกเหวสุวัต
ทั้งหมดนี้คือการเดินทางท่องเที่ยวป่าหน้าฝนระยะสั้น ที่ใครๆ ก็ไปได้หากสนใจความเป็นป่า และสนใจธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์สูงสุดในฤดูกาลนี้
ผีเสื้อวงศ์หางติ่งพบริมธารน้ำเหวสุวัต
หมายเหตุ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น